เสียงลมโกรก บรรยากาสอันวังเวง ซึ่งเป็นเวลาเงียบสงัดภายในบริเวณตึกกองบัญชาการตำรวจนครบาลเวลานั้น เมื่อ5ปีที่แล้ว
...บนชั้น3ของตึกดังกล่าวคือที่ทำงานของสำนักงานผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 ที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในของเมืองหลวง
....ตี2กว่า เป็นเวลาพักผ่อนของนายพลมือปราบชื่อดัง ซึ่งนายคงจะหลับพักอยู่ในห้องทำงานของท่าน เป็นประจำวันทุกวัน มิเคยได้กลับไปนอนกับลูกกับเมียแต่อย่างใด ด้วยภาระหน้าที่การงาน ประชาชนต้องมาก่อนครอบครัว คืออุดมการณ์สำหรับแก
ก็คงมีผมหนึ่งคนนี่ละ ซึ่งเป็นขุนพลคู่กายในสมัยนั้น ที่ต้องกินต้องอยู่ต้องนอนและคอยขับรถเป็นเพื่อนเวลาแกออกไปปฏิบัติงานดึกๆดื่นๆ
....เสียงประตูแง้มของห้องนายพลเปิดขึ้น ตอนดึก พร้อมสีหน้าท่าทางเตรียมพร้อมแต่งตัวอะไรสักอย่าง
ผมนึกในใจต้องมีคดีเกิดขึ้นสำคัญกลางดึกแน่ๆ
มือปราบหูดำ "พลตำรวขตรีวิชัย สังข์ประไพ" หรือผู้การแต้มที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เปิดประตูห้องมา พร้อมเอ่ยทักผม
""มึงยังไม่หลับเหรอ? แล้วมึงหาไรกินยังละจอนนี่"
เสียงมือปราบมือวิสามัญถามด้วยความเอ็นดู
"เรียบร้อยแล้วครับนาย ยังไม่ง่วงครับ สักพักคงจะหลับ"
...เสียงผมตอบนายคืนไป พร้อมกับที่แกง่วนยกสายเดินคุยโทรศัพท์ภายในห้อง ขณะที่ประตูเปิดแง้ม ที่ผมนั่งดูทีวีอยู่หน้าประตูห้องพักแก
"งั้นมึงเตรียมรถ อย่าใช้รถหลวง เตรียมอาวุธให้พร้อม เดี๋ยวกูเปลี่ยนชุดแปป รอตรงลานจอดรถด้านล่างเลยนะ"
เสียงสั่งการ! อันมีนัยยะ ที่ผมเคยได้รับคำสั่งแบบนี้ จากนายแต้ม นายผู้เป็นมือปราบไอดอลของผม และผมได้คลุกคลีอยู่กับท่านผ่านเรื่องราวสำคัญกับท่านมาหลายๆคดี
"ได้ครับนาย เดี๋ยวผมรอข้างล่าง ผมจะใช้เก๋งส่วนตัวผมจอดรอนะครับ"
..ตอบนายกลับไป พร้อมกลับตนเองเตรียมอาวุธคู่กาย
"เออๆ รอแปปนะ ไปรอข้างล่างนั่นละ"
สักพัก ร่างอันสูงใหญ่ ครึ่งท่อนนอกเครื่องแบบคลุมด้วยแจ๊กเก๊ตสีดำ คาดว่าของคู่กายของนายคงพร้อมเต็มที่
"ปะ จอนนี่ กำลังทั้งหมด จอดรออยู่ ริมคลองมักกะสัน"
"ทราบครับนาย!"
โปรดติดตามตอนต่อไป